เป็นจ ริ งทุกข้อ ญี่ปุ่น วิจารณ์ไทย ยิ่งอ่ า นยิ่งจุก
บทความของนาย เซ็ทซึโอะ อิอุจิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น ประจำกรุงเทพฯ (เจโทร)
ที่ได้พูดถึงจุดอ่อนของประเทศไทย และคนไทย แบบที่อ่ า นแล้วเถียงไม่ออกสักข้อ
1) คนไทยรู้จักหน้าที่ของตัวเองต่ำมาก โดยเฉพาะหน้าที่ต่อสังคม คือ เป็นประเภทมือใครย าวสาวได้สาวเอา
เกิດเป็นธุรกิจการเมือง ธุรกิจการค้า ธุรกิจการศึกษา ทำให้ประเทศชาติล้าหลังไปเรื่อย
2) การศึกษายังไม่ทันสมัย คนไทยจะเก่งแต่ภาษาของตัวเอง ทำให้ข า ดโอกาสในการแข่งขันกับต่างชาติในเวทีต่าง
ไม่กล้าแสดงออก ขี้อาย ไม่มั่นใจในตัวเอง จึงตามหลังชาติอื่น จะเห็นว่าคนมีฐานะจะส่งลูกไปเรียนเมืองนอกเพื่อโอกาสดีกว่า
3) มองอนาคตไม่เป็น คนไทยมากกว่า 70% ทำงานแบบไร้อนาคต ทำแบบวันต่อวัน แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวัน
น้อยคนนักที่จะทำงานแบบเป็นระบบ เป็นขั้นเป็นตอน มีเป้าหมายในอนาคตที่ชัดเจน
4) ไม่จริงจังในความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ทำแบบผักชีโรยหน้า หรือทำด้วยความเกรงใจ ต่างกับคนญี่ปุ่น หรือยุโรป ที่
ให้ความสำคัญต่อสัญญาหรือข้อตกลงอย่างเคร่งครัด เพราะหมายถึงคว ามเชื่ටถือในระยะย าว ปัจจุบันคนไทยถูกลดเครดิตความน่าเชื่อถือในเ รื่ อ งนี้ลงเรื่อย
5) การกระจายความเจริญยังไม่เต็มที่ ประชากรประมาน 60-70% ที่อยู่ห่างไกลจะข า ดโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเองและชุมชน ซึ่งเป็นหน้าที่ของภาครัฐที่ต้องส่งเสริม
6) การบังคับใช้กฎหมายไม่เข้มแข็ง และดำเนินการไม่ต่อเนื่อง ทำงานแบบลูบหน้าปะจมูก ปราบปรามไม่จริงจัง
การดำเนินการตามกฎหมายกับผู้มีอำนาจหรือบริวารจะทำแบบเอาตัวรอดไปก่อน ไม่มีมาตรฐานเช่นต่างประเทศที่เจริญแล้ว ข้อนี้กระบวนการยุติธรรมจะต้องปรับปรุง
7) อิ จ ฉ าตาร้อน สังคมไทยไม่ค่อยเป็นสุภาพบุรุษ เลี้ยงเป็นศรีธนญชัย ยกย่องคนมีอำนาจ มีเงิน โดยไม่สนใจภูมิหลัง
โดยเฉพาะคนที่ล้มบนฟูก แล้วไปเกาะผู้มีอำนาจเอาตัวรอด คนพวกนี้ร้ า ยยิ่งกว่าผู้ก่อการร้ า ย ดีแต่พูด มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ทำให้คนดีไม่กล้าเข้ามาเพราะกลัวเปลืองตัว
8) เอ็นจีโอค้านลูกเดียว เอ็นจีโอบางกลุ่มอิงอยู่กับผลประโยชน์ เอ็นจีโอดี ก็มี แต่บ้านเรามีน้อย บ่อยครั้งที่ประเทศเราเสียโอกาสอย่างมหาศาล
เพราะการค้านแบบหัวชนฝา เหตุผลจริง ไม่ได้พูดกัน
9) ยังไม่พร้อมในเวทีโลก การสร้างความน่าเชื่อถือในเวทีการค้าระดับโลกของเรายังข า ดทักษะและทีมเวิร์ก ทำให้สู้ประเทศเล็ก อย่างสิงคโปร์ไม่ได้
10) เลี้ยงลูกไม่เป็น ปัจจุบันเด็กไทยข า ดความอดทน ไม่มีภูมิคุ้มกัน เป็นโ ร คทางจิตใจ ไม่เข้มแข็ง เพราะเราเลี้ยงลูกแบบไข่ในหิน
ไม่สอนให้ลูกช่วยตนเอง ต่างกับต่างชาติที่เจริญแล้ว เขาจะกระตือรือร้นช่วยตัวเอง ขวนขวาย แสวงหา ค้นหาตัวเอง และเขาจะสอนให้สำนึกรับผิดชอบต่อสังคม
เชื่อว่าหลายคนอ่ า นแล้วก็เถียงไม่ออกเลยจริง เพราะเป็นอีกมุมมองที่สังคมอาจมองข้ามแต่คนนอกที่มองเข้ามาอาจจะเห็นความเป็นจริงเหล่านี้
และก็มีเพียงแต่ประชาชนคนไทยด้วยกันเองเท่านั้นที่จะช่วยกันพัฒนาสังคมให้ดีขึ้นได้