ป วดคอ นอนตกหมอน ทำยังไงถึงจะหาย
อาการคอเคล็ด หรือ อาการกล้ามเ นื้อคอเคล็ด เป็นอาการป่ วยที่สร้างความลำบา กในการใช้ชีวิตประจำวันไม่น้อยเลย ทำให้เคลื่อนไหวไม่คล่องตัว และมีอาการเจ็ บปว ดบริเวณคอเมื่อมีการเคลื่อนไหวอีกด้วย อาการคอเคล็ดที่เกิดขึ้นหลังตื่นนอน อาจเกิดจากท่านอนที่รองรับช่วงคอไม่ถูกต้อง ทำให้กล้ามเนื้ อคออักเส บ หรือที่เราเรียกว่า นอนตกหมอน นั่นเอง
วิธีแก้คอเคล็ด เมื่อนอนตกหมอน
-ประคบร้อน ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น บิดพอหมาดๆ แล้วนำมาประคบบริเวณที่ป วดประมาณ 15 ถึง 20 นาที
-ยืดกล้ามเ นื้อด้านที่หดรั้ง สังเกตว่าขณะเคลื่อนไหวคอนั้น รู้สึกปว ดตึงหรือเจ็ บที่ด้านไหน ให้ใช้มือช่วยดันศีรษะในทิศทางนั้นจนกระทั่งรู้สึกตึงมากแต่ไม่เจ็ บ ดันค้างไว้ประมาณ 10-15 วินาที คลายแร งที่ดันมือลง แล้วทำซ้ำอีกหลายๆ ครั้ง จนเริ่มรู้สึกว่าอาการเกร็งและตึงที่กล้ามเนื้ อนั้นทุเลาลง
-นวดเบาๆ ใช้มือบีบลงบนแนวของกล้ามเนื้ อที่รู้สึกตึง หรือ ป วดเมื่อย ให้แร งบีบพอประมาณที่ทำให้รู้สึกแน่นตึงและไม่เจ็ บ บีบและคลายเป็นจังหวะ การประคบร้อนก่อนการนวด จะช่วยให้นวดได้ง่ายขึ้น และผ่อนคลายกล้ามเนื้ อได้เร็วขึ้น
-เลี่ ยงการหันศีรษะบ่อย อย่ าพย าย ามเคลื่อนไหวคอและให้อยู่นิ่งๆ โดยการนอนราบชั่ วคราวเพื่อให้กล้ามเนื้ อคอได้พัก
ข้อควรระวั ง
-ไ ม่ควร กด บีบ หรือ ยืด กล้ามเนื้ อจนรู้สึกเจ็ บ พราะจะทำให้กล้ามเนื้ อเกร็งตัวมากขึ้น และไม่ควรให้ผู้อื่นดัดคอหรือจั บเส้นเด็ ดข าด เพราะจะทำให้อักเส บ และเ รื้อรังได้ ถ้ายังไม่หายค่อยๆ ฝึกออกกำลังกล้ามเ นื้อ หรือปรึกษานักกายภาพบำบัด
-หากมีปัญหาการนอนตกหมอนบ่อยๆ ควรสังเกตตัวเองว่าสาเห ตุที่แท้จริงเกิดจากอะไร
-ปรับท่านอนให้เหมาะสม โดยนอนหงายให้หูกับหัวไหล่อยู่ในแนวขนานกัน หน้าไม่แหงนเกินไปและไม่ก้มจนเกินไป หากนอนตะแคงก็ควรนอนได้แนวเป็นกระดู กตรงเช่นเดียวกัน
-เลือกหมอนที่มีความนุ่มปานกลาง หากนุ่มเกินไปเวลาพลิกตัวจะทำให้กระดูกเกิดแ รงสั่นมากขึ้น และหมอนที่พอดีกับศีรษะของเรานั้นต้องทำให้ระดับคางไม่เงยหรือก้มต่ำเกินไป ความยาวของหมอนควรถึงต้นหัวไหล่ป้องกันการคอตก สามารถเช็กระดับความพอดีโดยนำกระจกมาตั้งด้านข้างเตียงหรือให้คนถ่ายรูปด้านข้างเวลาเราหนุนหมอน
-ไม่นอนคว่ำตอนดูหนังหรืออ่านหนังสือหรือนอนตะแคงข้างมีอาการป วดบ่อยๆ เพราะสามารถติดเป็นนิสัยทำให้บา ดเจ็ บซ้ำๆ ได้
-ปกติอาการป วดคอมักจะหายภายใน 1-2 วัน ถ้าอาการรุนแ รงขึ้น หรือยังไม่หายสนิทให้รีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาสาเ หตุที่แท้จริงและรักษาให้ถูกต้อง
ขอขอบคุณข้อมูล :chalita_k๐