15 พฤติกรร มที่ทำให้นอนไม่หลับ และฝันร้า ย
ใต้ความอ้วนที่มี ใต้อาการนอนไม่หลับที่เป็น และใต้การนอนฝันร้า ยที่เห็นและจำได้ เชื่ อไหมคะว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับคุณมีที่มาที่ไปด้วยกันทั้งสิ้น ยิ่งหากคุณมักจะทำพฤติก รรมเหล่านี้ก่อนเข้านอนด้วยแล้ว ก็ยากเหลือเกิน ที่จะหลุดพ้นจากความอ้วน อาการนอนไม่หลับ และฝันร้า ย แต่จะมีพฤติกร รมยามดึกแบบไหนบ้างที่เป็นต้นเ หตุ ลองมาเ ช็กกัน
1. จัดหนักมื้อเย็น
กินมื้อเย็นเต็มที่ก็เสี่ ยงจะเกิดไขมันสะสมในร่างกายมากพออยู่แล้ว แต่ยังไม่เพียงเท่านั้นสิคะ เพราะเมื่อเรากินมื้อเย็นเยอะเกินไป อิ่มเกินไป ร่างกายก็ต้องใช้เวลานานพอสมควรในการย่อยอาหารในท้อง ซึ่งอาจทำให้ระบบย่อ ยอาหารต้องยืดเวลาการทำงาน และรบกวนการนอนหลับพักผ่อนของเราได้
อีกทั้งการกินให้เกินความอิ่มของท้องอาจก่อให้เกิดอาการอาหารไม่ย่ อย จุกแน่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ ส่งผลให้คุณนอนหลับอย่างกระสับกระส่าย ฝันร้ าย จนสุดท้ายก็นอนไม่พอ เสี่ ยงต่อความอ้วนเพิ่มขึ้นไปอีก
2. งดมื้อเย็น
ครั้นจะงดมื้อเย็นไปเลยระบบย่อ ยอาหารก็จะปรวนแปรไม่น้อยเหมือนกัน ส่งผลให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อจากการที่ก รดในกระเ พาะไม่ได้ใช้งานอย่างถูกวิธี หรือบางรายอาจมีอาการคลื่นไ ส้ รู้สึกหิวหนักมากจนนอนไม่หลับ เดื อดร้ อนให้ฮ อร์โมนในร่างกายสับสนวุ่นวายไปหมด เมื่อตื่นเช้าขึ้นมาคุณจะรู้สึกหิวสุด ๆ แถมยังอาจรู้สึกอยากจะกินแต่ของหวาน
3. กินของทอดของมันเป็นมื้อเย็น
อาหารไขมันสูงอย่างอาหารประเภททอด ขาหมู หรืออะไรก็ตาม นับเป็นอาหารที่ร่างกายต้องใช้เวลาในการย่ อยค่อนข้างนาน ก่อกวนการนอนหลับพักผ่อนของร่างกาย นำไปสู่การนอนหลับฝันร้า ยได้อีกด้วย และก็อย่างที่รู้กันด้วยนะคะว่า อาหารไขมันสูงเป็นมิตรกับความอ้วนอยู่แล้ว ฉะนั้นหากไม่อยากอ้วน ไม่อยากฝันร้ าย ไม่อยากนอนไม่หลับ ก็พย าย ามเลี่ยงอาหารไขมันสูงในมื้อเย็นให้ไกลเลย
4. กินอาหารรสจัดจ้าน
การรับประทานอาหารรสจัดจ้านในมื้อเย็น โดยเฉพาะในช่วงเวลาใกล้เข้านอน เป็นอะไรที่สุ่มเสี่ ยงต่อการนอนฝันร้า ยจนนอนไม่พอมาก ๆ เลยล่ะค่ะ เพราะอาหารรสจัดจะช่วยกระตุ้ นระบบเผ าผ ลาญของร่างกายให้ตื่นตัว ซึ่งดูเหมือนจะดีต่อการลดน้ำหนักใช่ไหมคะ แต่เปล่าเลย เพราะอ ย่าลืมว่าในระหว่างที่เรานอนหลับ ร่างกายควรต้องการความสงบเพื่อให้นอนหลับได้สนิท ใช่เวลาที่ระบบเ ผาผล าญจะมาครึกครื้นเฮฮาซะที่ไหน
5. กินขนมหวานก่อนนอน
ถ้าไม่อยากอ้วนก็ไม่ควรกินขนมหวานหลัง 6 โมงเย็นด้วยประการทั้งปวง เพราะนอกจากแคลอรีในขนมหวานจะสูงลิ่วแล้ว การรับประทานอาหารที่มีรสหวาน โดยเฉพาะหากเป็นความหวานที่มาจากส ารที่ให้ความหวานแทนน้ำตาล แบบนี้ก็จะเสี่ย งต่อการนอนไม่หลับหรือฝันร้ ายเพิ่มมาด้วย เนื่องจากสา รสังเค ราะห์ดังกล่าวเป็นส ารแปลกปลอมที่ร่างกายต้องใช้เวลาในการย่อ ยค่อนข้างนาน ดังนั้นระบบย่ อยอาหารจึงต้องทำงานล่วงเวลาอีกแล้วนั่นเอง
6. กินของว่างระหว่างดูทีวี
ใครที่ชอบดูหนัง ดูละครก่อนเข้านอน และต้องมีของว่างแก้เหงาปากกินเพลิน ๆ ไปด้วย ขอให้รู้ไว้เลยค่ะว่าพฤติกรร มนี้ไม่ได้แค่พาให้อ้วนขึ้นเท่านั้น แต่ยังอาจทำให้คุณนอนหลับไม่สนิท และอาจฝันร้า ยเอาได้ เนื่องจากในขนมขบเคี้ยวส่วนใหญ่มักจะมีส่วนผสมของส ารที่ให้ความหวานแทนน้ำตาล หรืออย่างน้อย ๆ ก็อาจมีส ารสังเคร าะห์อื่น ๆ ที่ใช้ผสมอาหาร ซึ่งร่างกายไม่สามารถย่อ ยหรือเผ าผล าญส ารเหล่านี้ได้ในทันที ก่อกวนระบบเผ าผล าญและระบบย่ อยอาหารให้ต้องทำงานหนัก
7. เทคคาเฟอีนเข้าร่างกาย
รู้ทั้งรู้ว่าคาเฟอีนช่วยปลุกให้สมอ งตื่นจากความง่วงงุน ดังนั้นหากเราเติมคาเฟอีนให้ร่างกายภายใน 4-6 ชั่ วโมงก่อนเข้านอน ก็เป็นไปได้มากว่าคืนนั้นจะนอนไม่หลับ กระสับกระส่ายจนอาจเลยเถิดไปถึงฝันร้า ย และแน่นอนว่าเมื่อนอนไม่พอร่างกายก็เสี่ย งต่อพฤติกร รมพาอ้วนอื่น ๆ อีกเป็นกระบวน
8. ดริงก์ก่อนนอน
เครื่องดื่ม แอล กอฮ อล์ไม่ได้ช่วยให้หลับสบายขึ้นอย่างที่เข้าใจ เพราะจริง ๆ แล้วไม่ว่าจะเป็นเบี ยร์ ไ วน์ เหล้ า หรือแอล กอฮ อล์ชนิดอื่น ๆ ก็ล้วนแต่มีสา รเ คมีที่ออกฤ ทธิ์ต่อส มองทำให้นอนไม่หลับด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะหากดื่มแอ ลกอฮ อล์ภายใน 4-6 ชั่ วโมงก่อนเข้านอน ที่หลังดื่มในช่วงแรก ๆ อาจทำให้รู้สึกง่วงงุน แต่เมื่อหมดฤ ทธิ์แอ ลกอฮ อล์ไปแล้วร่างกายจะตื่นตัว และอาจจะรู้สึกปว ดปัสสาวะบ่อย ๆ จนทำให้ต้องสะดุ้ งตื่นมากลางดึกเป็นระยะ ๆ อีกอย่างอย่าลืมด้วยค่ะว่า แอล กอฮ อล์แต่ละชนิด แคลอรีก็ไม่ใช่น้อย ๆ เลยเชียวล่ะ
9. เข้านอนทันทีหลังจบมื้อเย็น
บางคนเลิกงานดึก เลยจำเป็นต้องกินมื้อเย็นเลทไปด้วย และลงท้ายด้วยการกินอิ่ม อาบน้ำ และเข้านอนเลย ซึ่งแน่นอนค่ะว่ากรณีนี้จะเกิดอาการจุกแน่น ทำให้นอนไม่สบาย เสี่ย งต่อโร คกร ดไหลย้อน และอาจนอนฝันร้า ยเพราะการนอนหลับกระสับกระส่ายของเรานี่แหละ
10. กินอิ่มแล้วไม่ขยับ
ผลการศึกษาเมื่อปี 2013 แสดงให้เห็นว่า คนที่กินอิ่มแล้วนั่งจมอยู่กับโซฟา หรือมัวแต่นั่งเล่นดูทีวีไปเรื่อยเปื่อย คนกลุ่มนี้จะเสี่ย งต่อความอ้วนมากกว่าคนที่จบมื้อเย็นแล้วขยับตัวไปทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างกวาดบ้าน ถูบ้าน หรือพาน้องหมาออกไปเดินเล่นไม่ต่ำกว่า 10 นาที ดังนั้นหากไม่อยากเป็นคนอ้วนในอนาคต เรามาขยับหลังมื้อเย็นเพื่อกระตุ้ นระบบเผ าผ ลาญกันสักหน่อยดีกว่า
11. กินมื้อเย็นหน้าทีวี
ผลการวิจัยจากมหาวิทย าลัยไบรมิงแฮม พบว่า กลุ่มอาสาสมัครที่กินมื้อเย็นไปด้วย ดูทีวีไปด้วยจะอร่อยกับอาหารมื้อนั้นและกินอาหารได้เยอะกว่ากลุ่มที่นั่งกินมื้อเย็นบนโต๊ะอาหาร อีกทั้งการได้ดูทีวีระหว่างกินอาหารอาจทำให้คุณรู้สึกเพลิดเพลินจนจบมื้ออาหารแล้วก็ไม่อยากลุกไปไหน ลดโอกาสในการขยับเขยื้อนร่างกายเพิ่มขีดความสามารถของเมตาบอลิซึมนั่นเอง
12. ทำงานก่อนเข้านอน
สายบ้างานต้องรู้ไว้เลยค่ะว่า การเช็กอีเมลงานก่อนนอนหรือเคลียร์งานก่อนนอนอาจส่งผลให้คุณนอนไม่หลับและอ้วนขึ้นได้ เพราะการทำงานในเวลานี้อาจพาความเครี ยดติดไปกับสมอ งของคุณในระหว่างที่คุณนอนหลับ ส่งผลให้เสี่ ยงต่อการฝันเป็นตุเป็นตะจนร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ
13. เล่นสมาร์ตโฟนก่อนนอน
น่าจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วว่าสมาร์ตโฟนจะส่องแสงสีฟ้าผ่านหน้าจอออกมาแม้เราจะไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาก็ตาม ซึ่งแสงสีฟ้าที่ว่านี้มีอันตรา ยต่อสุขภาพของเราไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะในตอนกลางคืน หากเราเล่นสมาร์ตโฟนก่อนนอน ร่างกายอาจโดนแสงสีฟ้าเล่นงานจนรบกวนการทำงานของเมลาโทนิน ฮอ ร์โม นสำคัญต่อการนอนหลับพักผ่อนของร่างกาย ทำให้เรานอนไม่หลับ นอนฝันร้า ย และลามไปจนถึงอ้วนขึ้นได้ เพราะร่างกายจะส่งฮ อร์โม นคอร์ติซอลออกมา ทำให้ในวันรุ่งขึ้นเราจะรู้สึกอยากกินแต่อาหารรสหวาน อาหารฟาสต์ฟู้ด เพื่อเติมความสดชื่นให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัว หายจากความอ่อนเพลียเพราะนอนไม่พอ
14. นอนดึกทุกวัน
ขอย้ำอีกทีว่าการนอนไม่พอทำให้อ้วนขึ้นได้จริง ๆ โดยนายแพทย์ Stuart Quan ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทย าลัยฮาร์วาร์ด ได้เปิดเผยผลการศึกษาเมื่อเดือนตุลาคมปี 2015 ว่า การนอนหลับส่งผลโดยตรงต่อความเสี่ ยงโร คอ้วน โดยพบว่าคนที่นอนหลับน้อยกว่า 5 ชั่ วโมงต่อคืน มีแนวโน้มว่าจะเป็นโร คอ้วนสูงถึง 45% ซึ่งในการศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าการนอนหลับไม่เพียงพอจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลื อดผิ ดปกติและเข้าไปทำให้ฮอ ร์โ มนเกรลิน (Ghrelin) หรือฮ อร์โม นความหิวเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งยังทำให้ฮอ ร์โม นเลปติน (Leptin) ซึ่งเป็นฮ อร์โ มนความอิ่มลดลง จึงเป็นสาเห ตุทำให้เราหิวบ่อยขึ้นนั่นเอง
นอกจากนี้การพักผ่อนอย่างไม่เพียงพอยังส่งผลกระทบต่อพฤติกร รมการกินด้วย โดยจะทำให้เราเลือกกินอาหารจำพวกขนมขบเคี้ยว น้ำตาล คาเฟอีน อาหารแคลอรีสูง อาหารคาร์โบไฮเดรตสูง และแอ ลกอฮอ ล์มากกว่าปกติ อีกทั้งยังอาจส่งผลให้กินอาหารไม่เป็นเวลา หรือรับประทานอาหารไม่ครบ 3 มื้อ ซึ่งนั่นเป็นสาเห ตุของความอ้วนตามมาค่ะ
15. ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ซะสายโด่ง
บางคนตั้งใจว่าจะนอนตื่นเที่ยงเลยก็มีค่ะ ซึ่งพฤติก รรมนอนตื่นสายที่เคยชินกันมาตลอดนี่แหละต้นตอของความอ้วน เพราะการนอนตื่นสายจะทำให้เราพลาดมื้อเช้าที่แสนจะสำคัญ อย่างที่ผลการวิจัยชิ้นหนึ่งได้บอกเอาไว้ว่า การได้กินอาหารที่มีโปรตี นสูงในมื้อเช้าจะช่วยให้เราควบคุมอาหารได้ตลอดทั้งวัน ทำให้รู้สึกหิวจุบจิบน้อยลง เสี่ยงต่อความอ้วนน้อยกว่าคนที่พลาดมื้อเช้าค่อนข้างมาก และหากยังไม่เ ชื่อก็ลองดู
ขอบคุณข้อมูลจาก brightside, prevention, eatthis, reader’s digest