3 เคล็ ดลั บนอนให้ผอม ตื่นมาหุ่นสวย ผิวพรรณสดใส

แค่นอนก็ผอมได้ 3 เคล็ดลับนอนให้ผอม ตื่นมาหุ่นสวย ผิวพรรณสดใส

หากใครกำลังรู้สึกท้อแท้ หมดกำลังใจในการหาทางลดน้ำหนักเช่นนี้อยู่ จะดีกว่าไหมหากมีวิธีลดน้ำหนักที่สบายกายสบายใจ ที่เริ่มต้นง่ายๆ ในห้องนอน

หนังสือแค่นอนดีก็ผอมได้ ซึ่งเขียนโดย ซาโต้ เคอิโกะได้กล่าวไว้ว่า “ระหว่างนอนหลับ ร่างกายจะเผ าผลา ญพลังงานสูงถึง 300 กิโลแคลอรี นี่คือเ หตุที่เรารู้สึกท้องว่าง รู้สึกหิวทันทีเมื่อตื่นนอน หลายคนอาจเคยสังเกตร่างกายตัวเองว่า น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นหลังจากกินมื้อเย็น กลับหายไปเมื่อตื่นในตอนเช้า ทั้งๆ ที่เพียงแค่นอนหลับเฉยๆ ไ ม่ได้ออกกำลังกายใดๆ นั่นเป็นเพราะว่า การหลับลึ ก การนอนหลับอย่างมีคุณภาพ จะส่งผลให้ร่างกายหลั่ งโกรทฮอร์โม นหรือที่รู้จักกันในชื่อของฮ อร์โม นแห่งการเจริญเติบโต หรือฮ อร์โม นชะลอวัย ได้หลั่ งออกมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำหน้าที่ซ่อมแซมส่วนที่สึ กหร อของร่างกาย เผ าผลาญไขมั นสะสมในร่างกาย และช่วยฟื้นฟูร่างกายให้ดียิ่งขึ้น ยิ่งถ้าหากเรานอนหลับอย่างมีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ ในเวลาเพียง 1 เดือนน้ำหนักอาจจะลดลงได้สูงสุดถึง 1 กิโลกรัมเลยทีเดียว”

สิ่งสำคัญคือ อยากนอนให้ผอม ตื่นมาหุ่นสวย ไ ม่ใช่แค่การนอนหลับเฉยๆ แต่ต้องนอนอย่างมีคุณภาพ ด้วยเคล็ดลับ 3 ข้อต่อไปนี้

1) นอนให้ผอม ต้องนอนก่อนตีสาม

ร่างกายของคนเรามีจะมีนาฬิกาชีวิต (biological clock) ที่คอยกำหนดเวลาตื่น เวลานอน การกิน การขับถ่าย และการทำกิจก รรมในแต่ละวัน แบ่งได้เป็นสองส่วนหลักๆ คือ การทำกิจกร รมและการพักผ่อน ซึ่งจะทำงานสลับกันในช่วงเวลาตลอด 24 ชั่ วโมง

โดยหากร่างกายได้นอนหลับตามวงจรการพักผ่อนของนาฬิกาชีวิต ก็จะส่งผลให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ โกรทฮอร์โม นหลั่ งออกมาง่ายและได้ใช้อย่างเต็มที่ โดยเจ้าฮอร์โ มนชะลอวัยนี้จะหลั่ งออกมาในช่วงเวลาทอง ตั้งแต่เวลา 22.00 – 03.00 น. ดังนั้น เราจึงควรนอนก่อนตีสาม เพื่อช่วยให้การลดน้ำหนักด้วยการนอนนั้นได้ผลมากที่สุด

2) 3 ชั่ วโมงแรกของการนอนสำคัญมาก

การนอนหลับแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงนอนหลับธรรมดา มี 3 ระดับ และช่วงนอนหลับฝัน เมื่อเรานอนร่างกายก็เข้าสู่ช่วงหลับธรรมดา ไล่ระดับ 1 – 2 – 3 แล้วถอยกลับ 3 – 2 – 1 จึงเข้าสู่ช่วงฝัน แล้วก็กลับมาช่วงหลับธรรมดาเหมือนตอนต้นอีกครั้ง นับเป็น 1 เซ็ทโดยจะใช้เวลาประมาณ 90 นาที และวนไปเป็นเช่นนี้เรื่อยๆ จนกว่าจะตื่นนอนในตอนเช้า

ในช่วงหลับธรรมดา ร่างกายจะได้หลับลึ กมากที่สุดในช่วง 2 เซ็ทแรกเท่านั้น และโกรทฮอร์โ มนจะหลั่ งออกมาจากในช่วงหลับสนิท 3 ชั่ วโมงแรก หลังจากนั้นก็แทบไ ม่มีอีกเลย ดังนั้น การนอนหลับสนิทใน 3 ชั่ วโมงแรกเพื่อให้โกรทฮอร์ โม นได้หลั่ งออกมาอย่างเต็มที่ ก็จะช่วยให้การนอนให้ผอมนั้นเห็นผลดีที่สุด ซึ่งถ้าเรานอนดึก มีเวลานอนน้อยๆ การนอนหลับในช่วงหลับธรรมดาก็จะยิ่งน้อยลง โกรทฮอร์โม นก็จะหลั่ งได้น้อยลงไปด้วย ดังนั้น 3 ชั่ วโมงแรกต้องหลับให้สนิท

3) หลับยาวให้ต่อเนื่อง 7 ชั่ วโมง

ทุกคนรู้ว่าเราควรนอนให้ได้วันละ 8 ชั่ วโมง เพื่อสุขภาพที่ดี โดยจากผลการศึกษาทางวิทย าศา ส ตร์เรื่องการนอนหลับกับความอ้ว นของมหาวิทย าลัยโคลัมเบีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า ผู้ที่นอนหลับเพียงแค่วันละ 5 ชั่ วโมง มีโอกาสอ้วนขึ้น 52% และผู้ที่นอนวันละ 4 ชั่ วโมง มีโอกาสอ้วนสูงถึง 73% จึงสามารถสรุปได้ว่า การนอนน้อย มีผลทำให้ร่างกายอ้วนขึ้นได้ง่าย

โดยอาจมีผลมาจากการนอนน้อยนั้นทำให้เรารู้สึกอยากอาหารมากขึ้น เนื่องจากฮอร์โม นเกรลินซึ่งกระตุ้ นความหิวห ลั่งออกมามากเกินไปจึงทำให้เรากินเยอะ และมีโอกาสอ้วนมากขึ้น

ดังนั้น เราจึงควรหาโอกาสนอนให้ครบ 7 ชั่ วโมงต่อเนื่อง ไ ม่ว่าจะเป็นเวลาไหน เพราะใน 3 ชั่ วโมงแรก โกรทฮอร์โม นก็จะห ลั่งออกมาตามปกติ ดังนั้น ไ ม่ว่าจะทำงานกะดึก ก็สามารถนอนให้ผอมได้เช่นเดียวกัน แต่ถ้าหากจำเป็นต้องนอนน้อยกว่า 7 ชั่ วโมงจริงๆ และไ ม่สามารถนอนต่อเนื่องกันได้ในบางวัน

ขอแนะนำให้ตื่นตามเวลาปกติ เพื่อให้นาฬิกาชีวิตคงที่ และอาจจะหาเวลางีบในช่วงกลางวันประมาณ 15 – 20 นาที ก็จะช่วยบรรเทาอาการอ่อนล้าอ่อนเพลียลงได้

ที่มา goodlifeupdate

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น

86 − 81 =

Back To Top

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า