ติดโควิ ดห้า มกินอะไร เครื่องดื่ม-อาหารแบบไหนควรเลี่ยง
อาหารสำหรับผู้ป่ วยโควิ ดควรกินตามความเหมาะสมของอาการที่เป็นอยู่ และควรเลือกอาหารที่ไม่ทำให้อาการแ ย่ลง อาหารที่ไม่เพิ่มโอกาสเสี่ย งติดเชื้ อและอาการแทรกซ้อน รวมไปถึงอาหารที่ไม่เพิ่มโร คในช่วงป่ว ยโควิ ด ซึ่งอาหารที่ว่าก็แยกตามอาการป่ วยที่เป็น ดังนี้
กลุ่มที่มีอาการไอ คัดจมูก คันคอ มีน้ำมู ก มีเ สมหะ ห้า มกินอะไร
1. น้ำเย็น
น้ำเปล่าแช่เย็น หรือน้ำเปล่าใส่น้ำแข็ง ควรงดในทุกกรณี เพราะความเย็นจะทำให้จมูกบวมจากการระคายเคือง กระตุ้ นหลอดลมให้หดตัว กระตุ้ นการหลั่ งน้ำมู กและ เ สมหะ และทำให้อาการไอแ ย่ลง ดังนั้น ช่วงนี้ดื่มแต่น้ำอุ่นหรือน้ำในอุณหภูมิห้องไปก่อน
2. น้ำหวาน น้ำอัดลม ไอศกรีม
หลายคนอาจรู้สึกอยากดื่มน้ำหวานหรือน้ำอัดลมให้ชื่นใจ แต่ไม่ว่าจะเป็นน้ำหวานชนิดไหนก็ควรหลีกเลี่ยงไปก่อน เพราะรสหวานและความเย็นของเครื่องดื่มเหล่านี้อาจทำให้เกิดการอักเส บต่าง ๆ ในร่างกายได้ง่าย กระตุ้ นให้มีเส มหะหรือน้ำมู กมากกว่าเดิมได้ และอาจเพิ่มอาการไอด้วย
3. ชา กาแฟเย็น
ชาเย็น ชาน มไข่มุก กาแฟเย็น หรือเครื่องดื่มปั่นที่มีส่วนผสมของน้ำเชื่อม น มข้นหวาน น้ำตาล ครีมเทียมต่าง ๆ รสหวานและเย็นเหล่านี้อาจทำให้ระบบทางเดินหายใจระคายเคือง จมูกจะบวม น้ำมู กและเ สมหะจะมากขึ้น ซึ่งอาจไปซ้ำเติมอาการที่เป็นอยู่ให้ยิ่งหนัก อีกทั้งคาเฟอีนในชาและกาแฟยังทำให้ร่างกายขาดน้ำ ดังนั้นหากกินมากไปอาจทำให้น้ำมู กและเ ส มหะข้นเหนียวได้
4. เครื่องดื่มแ อลกอฮ อล์
เครื่องดื่มแ อลกอฮ อล์มีส่วนทำล ายภูมิคุ้มกันของร่างกาย ดื่มเข้าไปก็อาจจะหายจากโควิ ดช้าลง ยิ่งถ้าดื่มแบบแช่เย็นด้วยก็จะยิ่งเพิ่มการระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ ทำให้หลอดลมหดตัว กระตุ้ นอาการไอได้อีก
5. อาหารมัน ๆ
อาหารประเภทผัดที่ใส่น้ำมันมาก ๆ ของทอด กินแล้วจะกระตุ้ นให้เกิดอาการคันคอ กระตุ้ นการอักเส บในร่างกาย ทำให้ยิ่งไอหนัก
6. อาหารรสจัด
อาหารที่เผ็ดจัด หวานจัด เค็มจัด เปรี้ยวจัด เครื่องเทศ เครื่องแกง อาจทำให้เกิดการระคายเคืองทางหลอดอาหาร กระตุ้ นอาการไอ อาการคันคอ จึงควรหลีกเลี่ยง
7. ขนมขบเคี้ยว
ขนมกรุบกรอบที่เคี้ยวแล้วมีลักษณะเป็นผงแห้ง ๆ เมื่อกลืนแล้วจะรู้สึกคันคอได้ง่าย กระตุ้ นอาการไอ และอาจเพิ่มโอกาสในการสำ ลั กได้ด้วย ดังนั้นในช่วงที่ป่ว ยก็งดกินไปก่อนนะคะ
8. ข้าวเหนียว
หากมีอาการไอหนัก ไอไม่หยุด หรือมีอาการเ จ็บคอร่วมด้วย ควรหลีกเลี่ยงการกินข้าวเหนียวไปก่อน เพราะข้าวเหนียวเป็นอาหารที่กลืนยาก อาจทำให้ระคายเคืองคอได้ อีกทั้งหากกินข้าวเหนียวกับหมูปิ้ง ไก่ปิ้ง ไก่ทอด ซึ่งเป็นอาหารมัน ๆ อาจทำให้ยิ่งมีอาการไอ มีเ สมหะและคันคอยิ่งขึ้นไปอีก
9. อาหารที่มีส่วนผสมของเนยและชีส
ไม่ว่าจะขนมปังทาเนยปิ้ง ขนมปังชีส แฮมเบอร์เบอร์ชีส ชีสทอด หรือของกินเล่นและเบเกอรี่ที่มีเนยและชีสเป็นส่วนประกอบต่าง ๆ เนยและชีสอาจทำให้คันคอได้ ดังนั้นพย าย ามหลีกเลี่ยงไว้ก่อนดีกว่า
กลุ่มที่มีอาการพะอืดพะอม อาหารไม่ย่อ ย คลื่นไ ส้ มีลมในกระเพ าะ หรือถ่ายเหลว ห้า มกินอะไร
1. อาหารหมักดองต่าง ๆ
อาหารหมักดอง เช่น ปูเค็ม ปลาร้า ผลไม้ดอง ผักดอง กิมจิ อาจเสี่ ยงต่อการปนเปื้อ นของเชื้ อแ บคทีเ รีย ซึ่งอาจกระตุ้ นอาการท้องเสี ย ถ่ายเหลวให้รุนแ รงได้
2. น ม
หลายคนดื่มน มแล้วมีอาการทางระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องอืด ท้องเสีย ดังนั้นหากมีอาการเหล่านี้อยู่แล้วควรหลีกเลี่ยงการดื่มน มไปก่อน
3. โยเกิร์ต
โยเกิร์ตก็เสี่ ยงต่อการปนเปื้อ นของเชื้ อแ บคทีเรี ยด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังเป็นผลิตภัณฑ์จากน ม ดังนั้นในขณะที่มีอาการถ่ายเหลวก็ควรหลีกเลี่ยงไปก่อน
4. น้ำแข็ง
ไม่ว่าจะน้ำแข็งในเครื่องดื่ม หรือน้ำแข็งในขนมหวาน น้ำปั่นต่าง ๆ ก็ควรหลีกเลี่ยงให้ไกล เพราะน้ำแข็งไม่เพียงแต่กระตุ้ นอาการไอ ทำให้หลอดลมหดตัวเท่านั้น แต่ยังเสี่ ยงต่อการปนเปื้ อนของเชื้ อโร คหรือเชื้ อแบ คทีเรี ยก่อโร คได้
5 อาหารย่ อยยาก
เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน อย่างเนื้ อวัว เนื้ อหมู เนื้ อเป็ด เครื่องในสัตว์ต่าง ๆ อาหารปิ้งย่าง รวมไปถึงเนื้ อมะพร้าว ที่เป็นอาหารย่อ ยยาก อาจเพิ่มอาการพะอืดพะอม แน่นท้องมากขึ้นได้
6. อาหารที่ไม่ผ่านการปรุงสุก
ในช่วงที่ไม่สบายควรหลีกเลี่ยงอาหารสดต่าง ๆ ผักสด สลัดผัก สลัดผลไม้ และอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงสุกด้วยความร้อนทั้งหลาย เพราะเ สี่ยงต่อการปนเปื้อ นของเ ชื้อแบ คทีเรี ย ก่อโร ค และอาจทำให้มีอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้
7. ผลไม้สดสำเร็จรูป
โดยเฉพาะผลไม้ที่ปอกและหั่นให้พร้อมรับประทานมาแล้ว ซึ่งค่อนข้างเ สี่ยงต่อการปนเปื้ อนเ ชื้อโร ค หรือมีโอกาสเน่ าเ สียได้ง่าย หากไม่ปอกและหั่นแบบสดใหม่ ดังนั้นถ้ามีอาการท้องเสียควรหลีกเลี่ยงผลไม้สำเร็จรูปไปก่อน รวมไปถึงผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวอย่างส้ม เกรปฟรุต เสาวรส เลมอน มะนาว เพราะรสเปรี้ยวอาจทำให้ลำไ ส้เกิดการระคายเคืองได้ในบางคน ก่อให้เกิดอาการท้องเสี ยมากขึ้นได้
8. ถั่ว
ในถั่วมีน้ำตาลที่ร่างกายไม่สามารถย่ อยได้ ดังนั้นหากกินเข้าไปร่างกายก็จะพย าย ามย่อ ยน้ำตาลชนิดนี้ด้วยการหยุดห ลั่งเอนไซม์ และให้แบ คทีเรี ยในลำไ ส้ทำหน้าที่ย่อ ยแทน ก่อให้เกิดแก๊ สในลำไ ส้ ทำให้รู้สึกจุกเสีย ด แน่นเฟ้อได้
9. ส ารที่ให้ความหวานแทนน้ำตาล
ซอร์บิทอล (Sorbitol) หรือสา รที่ให้ความหวานแทนน้ำตาล มักจะพบมากในหมากฝรั่งชนิดไม่มีน้ำตาล น้ำอัดลมบางชนิด และขนมที่ใช้ส ารให้ความหวานแทนน้ำตาลทุกชนิด ซึ่งในบางคนกินแล้วจะมีอาการท้องเสีย
10. อาหารที่ไม่ถูกสุขอนามัย
อาหารที่ไม่สะอาด ปนเปื้อนฝุ่น มลภาวะต่าง ๆ อาหารค้างคืน อาหารที่ทำไว้นาน ๆ ผสมในภาชนะเดิมซ้ำ ๆ เช่น ยำ ส้มตำ ข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ ข้าวขาหมูที่หั่นบนเขียงเดิมซ้ำ ๆ ก็ควรหลีกเลี่ยงเพราะเสี่ยงที่ร่างกายจะได้รับเ ชื้ อแบ คทีเ รียก่อโร คจากอาหารเหล่านี้
กลุ่มที่มีอาการปว ดเมื่อย อ่อนเพลีย
1. เครื่องดื่มชูกำลัง
แม้จะรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแ รง แต่ก็พย าย ามหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มชูกำลังต่าง ๆ ให้ดี เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้มักมีคาเฟอีนที่อาจกระตุ้ นอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้รู้สึกใจสั่น นอนไม่หลับ จนเป็นสาเห ตุให้พักผ่อนไม่เพียงพอได้
2. อาหารมื้อใหญ่ ๆ
การรับประทานอาหารครั้งละมาก ๆ มื้อใหญ่ อาจทำให้อาหารไม่ย่อ ย เกิดท้องอืด ท้องเฟ้อ พะอืดพะอม หรือท้องผูกได้ ดังนั้นควรรับประทานอาหารเบา ๆ ย่ อยง่ายและแบ่งเป็นมื้อเล็ก ๆ เพื่อเติมพลังงานให้ร่างกายจะดีกว่า
ขอบคุณข้อมูลจาก
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทย าลัยมหิดล
โร งพย าบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
โรงพย าบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล หน องแขม
โร คปอดและทางเดินหายใจ หมอวินัยโบเวจา
หมอชาวบ้าน