เท คนิคผ่อนบ้านราคา 2 ล้าน ให้หมดใน 1 ปี 7 เดือน

เท คนิคผ่อนบ้านราคา 2 ล้าน ให้หมดภายใน 1 ปี 7 เดือน

สำหรับใครที่กำลังมีความคิดอยากจะกู้เงินเพื่อซื้อบ้าน แต่ไ ม่ต้องการเป็นห นี้ในระยะยาว 20-30 ปี เราจะมาแนะนำวิธีที่จะช่วยให้คุณผ่อนบ้านหมดภายในไ ม่กี่ปี

ได้มีผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่ง มาบอกเล่าถึงวิธีการผ่อนบ้านให้หมดภายใน 1.7 ปีเท่านั้น จากที่ทำสัญญากู้ไว้ 25 ปี 10 เดือน โดยกู้ธนาคารมา 2 ล้านบาท

ตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรี เขาก็ไ ม่ได้มีทรัพย์สินอะไรที่มีค่า นอกจากรถดรีม 125 ที่พ่อให้มาใช้ตั้งแต่สมัยเรียน นั่นคือสิ่งที่มีค่าที่สุดที่มีอยู่ เรียกได้ว่าเริ่มจาก 0 ในการผ่อนบ้าน และมั นก็ได้กลายเป็นความภาคภูมิใ จของเขาในที่สุด เขาได้เขียนรายละเอีย ดแยกเป็นหัวข้ อ ดังนี้

1 การกู้บ้านด้วยบูโรขาว ลำบา กมาก

ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อน เขาไ ม่เคยกู้อะไรเลย ทำให้ไ ม่มีประวัติในการชำระอะไรเลย และการกู้บ้านก็เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก โดยปกติแล้วคนส่วนใหญ่จะมีประวัติในการผ่อนรถยนต์มาก่อน ทางธนาคารก็จะสามารถดูประวัติการผ่อนได้จากรถ ว่าเรามีพฤติกร รมในการผ่อนที่สม่ำเสมอไหม แต่เขาไ ม่เคยมีประวัติการผ่อน แม้แต่บัตรเครดิตก็ยังไ ม่มี และยังทำงานอิสระด้วย จึงมีโอกาสสูงมากที่จะกู้ไ ม่ผ่าน แต่โชคดีที่มีพ่อทำงานรัฐวิสาหกิจ ให้มากู้ร่วมจึงผ่านได้

2 เทคนิคการผ่อนบ้านในแบบของเรา

ตอนที่กู้มา 2 ล้าน (ราคาขายบ้าน 2.2 + รีโนเวท 1.1 รวม 3.3 ล้านบาท) จึงทำให้ต้องกลับมานั่งคิดว่าจะเอ าเงินไปไว้ตรงไหนให้คุ้มค่าที่สุด เพราะปีแรก ดอกเบี้ ยจะยังคงที่ 0.9 % ปี 2-3 Mrr – 3.25 ประมาณ 2.97 %

ทำให้มองว่า ดอกเบี้ ยในปีแรกถูกกว่าเงินฝาก 1.5% ของอีกธนาคารที่เขาได้ฝากไว้ ใน 12 เดือนแรกจึงผ่อนไปตามปกติ เก็บเงินสด 300,000 บาทเอ าไว้ (อันนี้ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน เพราะบางคนก็มองว่า 0.9 % ของ 2 ล้าน เยอะกว่าเงิน 1.5 % ของ 3 แสน แต่ต้องดูว่าตรงไหนเราจะได้ประโยชน์มากที่สุด)

ในปีที่ 2 เขาได้เริ่มโปะบ้าน แบบหนักมากๆ มีเท่าไหร่ก็โปะให้หมด และตรงกับว่าปีที่ 2 เกิดโควิ ด จึงทำให้ทางธนาคารได้ออกนโยบายหยุดพักชำระ และลดดอกเหลือ 0.5% เป็นเวลา 3 เดือน (เมษา-กรกฎา) จึงได้มีโอกาสมาปิดยอดบ้านในช่วงเดือนนี้พอดี

3 วิธีแก้ไขสภาพคล่อง

อาจจะไ ม่ได้ลำบา กเท่าไหร่ เพราะเขานั้นเป็นคนที่มีนิสัยประหยัดอยู่แล้ว แต่สำหรับคนอื่นก็อาจจะต้องฝึกใช้ชีวิตแบบประหยัดให้ชิน และเขาก็สามารถขับรถมอเตอร์ไซต์ไปทำงานได้ เลยไ ม่ได้คิดที่จะซื้อรถยนต์เพื่อเพิ่มภาระตรงนี้ แต่วิธีการก็ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตของใครของมั น เพราะบางคนก็อาจจะจำเป็นที่จะต้องใช้รถยนต์ในการทำงาน หรือเพื่อสร้างรายได้ให้เงินงอกเงย ซึ่งเขาได้เฉลี่ยใช้เงินตกวันละ 150-200 บาท พย าย ามจะไ ม่ใช้เกินนี้

และด้วยวิธีการใช้ชีวิต และแนวทางของเขาที่มุ่งมั่นตั้งใ จที่จะปิดบ้านให้ได้เร็วที่สุด เพื่อที่จะไ ม่ต้องแบกรับดอกเบี้ ยในระยะยาว จึงทำให้เขาสามารถผ่อนบ้านที่กู้มาได้ในราคา 2 ล้าน ให้หมดภายใน 1.7 ปี ได้ในที่สุด

ทางด้านคุณ Mr.Worldwide สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ก็ได้แชร์ประสบการณ์วิธีผ่อนบ้านและคอนโด ที่เขาเคยทำมาเช่นกัน ซึ่งเขาทำมาตั้งแต่ยังมีเงินเดือนแค่ 14,000 บาท จนเปลี่ยนงานและมีรายได้เพิ่มขึ้นหลายเท่า

วิธีคิด : ให้เรามองหาสินทรัพย์ ไ ม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโดที่เราชอบ และเขาได้ซื้อบ้านในราคา 4 ล้าน และกู้เงินธนาคาร โดยที่เขามีเงินเดือนอยู่ประมาณ 55,000 บาท สมมติว่าเขาต้องผ่อน 20,000 บาท ให้คิดไว้ว่าต้องผ่อนเป็น 2 เท่า ให้ได้ นั่นคือ 40,000 บาท จึงค่อยตั ดสินใ จซื้อ

ซึ่งถ้าเราคิดจะผ่อนแค่งวดละ 20,000 บาท ไปเรื่อยๆ ก็ไ ม่เป็นไร แต่ก็ต้องผ่อนไป 25-27 ปี ถึงจะหมดอยู่ดี

วิธีผ่อนให้หมดเร็ว : สมมติว่าเราผ่อนเดือนละ 20,000 บาท

– ดอกเบี้ ย = 12,000 บาท

– (หัก) เงินต้น = 8,000 บาท (ตีเลขกลม ๆ)

เท่ากับว่า (4,000,000-8,000 = 3,992,000) นี่คือการผ่อนต่อเดือนไปเรื่อยๆ แล้วเมื่อไหร่จะหมด กู้ไป 4 ล้าน

แต่ถ้าเราผ่อน 2 เท่า ตามวิธีคิดที่ได้ให้ไว้ก็คือ 40,000 บาท และเก็บไว้กินไว้ใช้อีก 15,000 บาท (หากใครมีรายได้น้อยกว่านี้ ก็ให้ดูสินทรัพย์ที่ถูกลงมา พอที่เราจะจ่ายได้ 2 เท่า โดยที่ไ ม่ลำบา กการใช้ชีวิตจนเกินไป)

– 20,000 บาทแรก (ดอกเ บี้ย 12,000 บาท+หักเงินต้น 8,000 บาท)

– 20,000 บาทหลัง (หักเงินต้น 100% หรือหักไปเลยอีก 20,000 บาท)

เท่ากับว่า เราสามารถหักเงินต้นเดือนนั้นได้ถึง 8,000+20,000 บาท หรือ “3.5 เท่า” ของการหักโดยปกติ (4,000,000-28,000 = 3,972,000)

นี่คือข้อดีของการวางแผนซื้อสินทรัพย์ โดยการมีหลักคิดผ่อนให้ได้ 2 เท่าของแต่ละเดือน เพื่อที่เงินต้นจะได้ลดลงเร็วขึ้น เพราะเราได้จ่ายดอกเบี้ ยสำหรับค่างวด 20,000 บาทแรกแล้ว และก้อนที่สองก็จะเป็นการจ่ายเงินต้นทั้งหมดนั่นเอง จะทำให้เราปิดยอดได้เร็วขึ้นหลายสิบปีเลยล่ะ และยิ่งถ้าได้รับโบนัส หรือมีรายได้พิเศ ษเพิ่มเข้า ก็รีบเอ าไปโปะ ก็จะยิ่งลดต้นได้เร็วกว่าเดิม

แล้วพอครบ 3 ปี เราก็ค่อยไปรีไ ฟแนนซ์กับธนาคารอื่นที่เราจ่ายดอกเบี้ ยน้อยกว่า เพื่อโปรโมชั่นดอกเบี้ ยที่ถูกลง แต่ไ ม่ควรทำก่อน 3 ปี เพราะจะโดนค่าปรับได้ ซึ่งไ ม่คุ้มแน่นอน

ขอขอบคุณเรื่องราวจาก : นาย ชัยธวัช มีเดช, คุณ Mr.Worldwide สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น

70 ÷ = 10

Back To Top

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า