เปิดราคาวั คซี นโ ค วิ ดครั้งแรก ต้องฉี ดคนละ 2 เข็ ม

เปิดราคาวั คซี นโ ค วิ ดครั้งแรก ต้องฉี ดคนละ 2 เข็ ม

วันนี้ (24 ก.ค.) ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกร รมการวิจัยแห่งชาติ ทำหน้าที่ผู้อำนวยการ สำนักงานการวิจัยของชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทย าศาส ตร์ วิจัยและนวัตก รรม (อว.) รายงาน การติดตามความคืบหน้าการพัฒนาวั คซี นโร คโ ควิ ด ของทั่วโลกว่า วั คซี นแต่ละแบบ ที่กำลังทดสอบอยู่ในขณะนี้ ให้ผลที่ใกล้เคียงกัน

ส่วนใหญ่จะเห็นผลว่า มีระดับภูมิคุ้มกันสูงเพียงพอ หลังฉี ดวั คซี นเข็ มที่ 2 ดังนั้นจึงคาดว่า จะต้องฉี ดวั คซี นคนละ 2 ครั้ง ห่างกันหนึ่งเดือน และเมื่อไ ม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ได้มีการเปิดเผยผลการเจรจาสำคัญ ที่บ่งบอกถึงแนวโน้มราคาของวั คซี น โดยรัฐบาลสหรัฐ ได้ตกลงสั่งซื้อ วั ค ซี นที่บริษัทไบโอเอ็นเทค ของเยอรมนี พัฒนาร่วมกับบริษัทไฟเซอร์ สหรัฐ เป็นการจองซื้อวั คซี นล่วงหน้า หากประสบความสำเร็จ

การจองดังกล่าว ระบุราคาของวั คซี นไว้เลย โดยสั่งซื้อวั คซี น 100 ล้านเ ข็ม สำหรับฉี ดในคน 50 ล้านคน ที่ราคา 2,000 ล้านดอลลาร์ เท่ากับราคาเข็ มละ 20 ดอลลาร์

“ประเมินกันตอนนี้ว่า ราคาวั คซี นโ ค วิ ด น่าจะอยู่ที่ 20 ดอลลาร์ หรือ 620 บาท ฉี ดคนละ 2 เข็ ม เท่ากับค่าวั คซี น 1,240 บาท ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการเปิดเผยการคาดการณ์ราคาวั คซี นออกมา เพราะก่อนหน้านี้ ที่มีการจองวั คซีน กันนั้น เป็นกึ่งการให้ทุนวิจัย แต่ไ ม่ได้ระบุราคาของวั คซี นเ อาไว้ และราคานี้ ก็ใกล้เคียงกับราคาของวั ค ซี นไ ข้หวัดใหญ่”

สำหรับ ช่วงเวลาที่น่าจะมีวั คซี นที่ใช้งานได้จริง โดยผ่านการทดสอบครบทุกขั้นตอน และผลิตได้ในปริมาณที่เพียงพอ สำหรับคนจำนวนมาก ที่นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลกคาดการณ์กันไว้นั้น น่าจะเป็นในกลางปีหน้าเป็นต้นไป โดยในช่วงต้นปี 2564 จะเริ่มมีวัคซีนจำนวนหนึ่ง ที่พร้อมใช้ในคน แต่จะยังคงมีจำนวนจำกั ด หลังจากนั้นจึงจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้มีวั คซี นจำนวนมาก เพียงพอกับความต้องการ

ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ บอกด้วยว่า การประเมินเรื่องราคา และจำนวนที่ต้องฉี ดดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นหลังจากที่ช่วงไ ม่กี่สัปดาห์มานี้ มีข้อมูลสำคัญ ที่น่าตื่นเต้นมาตลอดสัปดาห์ โดยมีรายงานผลการทดสอบวั คซี นในมนุษย์ ระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ที่ให้ผลน่าพอใ จ

โดยเฉพาะวั คซี นที่มหาวิทย าลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ร่วมกับบริษัทแอสตราเซเนกา ประเทศอังกฤษ พัฒนาขึ้นมา และวั คซี นที่พัฒนาโดยบริษัทแคนไซโน ประเทศจีน ซึ่งพบว่า วั คซี นทั้ง 2 แบบนี้ สามารถกระตุ้ นภูมิคุ้มกันได้ดีในอาสาสมัคร และไ ม่พบผลข้างเคียงรุ นแ รง

นอกจากนี้ ยังมีรายงานผลการทดสอบวัคซีนของบริษัทโมเดอร์นา ของสหรัฐ ที่มีผลไปในทิศทางเดียวกันด้วย ทำให้นักวิทย าศาสตร์ มีความมั่นใ จมากขึ้นว่า จะสามารถพัฒนา และผลิตวั คซี นที่ใช้งานได้

ปัจจุบัน มีวั คซี นที่กำลังทดสอบในมนุษย์ ถึง 30 แบบ ซึ่งวั คซี นอย่างน้อยแบบใดแบบหนึ่ง หรือหลายๆ แบบน่าจะใช้งานได้ และการพัฒนาวั คซี นในช่วงต่อไป ก็จะเข้าสู่การทดสอบระยะที่ 3 ในประชากรจำนวนมาก เพื่อดูผลในการป้องกันการติดเ ชื้อ ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้าย ก่อนที่จะได้รับการรับรองเพื่อใช้งานทั่วไป

การทดสอบในช่วงต่อไป จะติดตามว่า ภูมิคุ้มกันที่สร้างขึ้นนี้ จะอยู่ได้นานแค่ไหน รวมทั้งติดตามโดยละเอีย ด ในเรื่องความปลอดภั ย ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว

ที่สำคัญจะต้องติดตามว่า ผู้ที่ได้รับวั คซี นนั้น จะไ ม่ติดเชื้ อโ รค โดยเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ไ ม่ได้รับวั คซี น เพราะในการทดสอบที่รายงานกันนี้ เป็นการตรวจในห้องปฏิบัติการว่า มีระดับแอนติบอดี หรือมีภูมิคุ้มกันด้านเซลล์เพิ่มขึ้น แต่ยังไ ม่ได้ยืนยันว่า ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้น จะสามารถป้องกันเชื้ อได้หรือไ ม่ ซึ่งจะต้องใช้เวลาติดตามพอสมควรเพื่อให้มั่นใ จ และยังต้องเข้าสู่ ขั้นตอนการผลิต ให้เพียงพอต่อความต้องการอีกด้วย

สำหรับประเทศไทย มีการดำเนินงานด้านวั คซี นอย่างคู่ขนานกันทั้ง 3 แนวทาง

1 การพัฒนาวั คซี นในประเทศ

2 การรับถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิควั คซี น ที่ผ่านการทดสอบแล้วจากต่างประเทศเพื่อให้ผลิตได้เพียงพอสำหรับคนไทยทั้งประเทศ

3 เตรียมจัดหาวั คซี นจากทั้งภ ายใ นประเทศ และต่างประเทศ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น

3 × = 12

Back To Top

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า