คลายล็อกระยะสุดท้าย เผยอาชีพและกิจการที่ไ ม่ได้ไปต่อ
วันที่ 24 มิถุนายน 2563 “ในห้วงประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ เคยมีอาชีพเกิดขึ้นแล้วก็มีอาชีพที่หายไป” ซึ่งเกิดได้จากหลากปัจจัย เช่น ที่พูดกันตลอดช่วงไ ม่กี่ปีที่ผ่านมาในประเด็น “ความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี (Disruptive Technology)”
ในอดีตเคยมีอาชีพที่เผชิญชะตากร รมนี้ อาทิ คนจุดตะเกียงตามถนนหนทางในเมือง หรือคนส่งสั ญญ าณบอกเวลา ที่หายไปเพราะมียุคต่อมามนุษย์พัฒนาเทคโนโลยีด้านไ ฟฟ้าและนาฬิกาปลุกมาใช้แทนที่ ส่วนปัจจุบันก็มีหลายอาชีพที่ถูกคาดการณ์ว่าจะหายไปอนาคต เพราะจะมีหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาทำแทน
ล่าสุดกับปัจจัย “โร คระบา ด” หรือการระบา ดของโ ค วิ ด ที่กระทบไปแทบจะทุกอาชีพในสังคมไม่ มากก็น้อย ทั้งนี้ หลายอาชีพสามารถปรับตัวเข้ากับ “ชีวิตวิถีใหม่ (นิวนอร์มอล-New Normal)” ได้ แต่ก็มีบางอาชีพที่ดูแล้วคงต้อง “สู ญพั นธุ์” ไป หนึ่งในนั้นคือ “เ ด็กดริงก์” หรือหญิงสาวที่ทำหน้าที่ชงเครื่องดื่มแอ ลกอฮอ ล์รวมถึงเป็นเพื่อนคุยและร้องเพลงกับลู กค้าที่เข้าไปใช้บริการใน “ร้านคาราโอเกะ” ที่มีลักษณะเป็นห้องแถว 1-2 คูหาบ้าง เป็นร้านเพิงไม้ปลูกง่ายๆ บ้าง ร้านเหล่านี้เป็นร้านเล็กๆ ตั้งอยู่ในซอกหลืบของเมือง ไปจนถึงริมถนนที่เชื่อมระหว่างเมือง
แต่การเปิดเผยโดย นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก “ศบค.” ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพ ร่ระบา ดของโร คติดเ ชื้อโ ควิ ด ว่าด้วยกิจการที่ เหลือที่คาดจะได้รับอนุญาตให้กลับมาเปิดทำการได้ในวันที่ 1 ก.ค. 2563 ในจำนวนนี้
“โอเกะนั่งดริงก์” ที่สังคมไทยคุ้นเคยมานานหลายสิบปีอาจ ไ ม่ได้ไปต่อ เนื่องจากตามมาตรการของ ศบค. ระบุว่า “งดนั่ง ร้องเพลง เต้นหรือยินยอมให้มีการเต้นกับลู กค้า” ซึ่งขัดกับพฤติกร รมการไปสถานที่เหล่านี้ที่ลู กค้าหวังจะได้ “ดื่มเห ล้าเคล้านารี” อย่างสิ้นเชิง ดังนั้นจึงเป็นไปได้สูงที่จะต้อง “ปิดตัวลง” ไปโดยปริยาย
ไหนๆ ก็ชัดเจนขนาดนี้แล้ว วอน ศบค. รวมถึงรัฐบาล ช่วยหาทางเยีย วย าคนกลุ่มนี้ (ซึ่งเชื่ อว่ามีไ ม่น้อยเพราะพบเห็นได้ทุกจังหวัดของไทย) ทั้งผู้ประกอบการที่ดูจากสภาพสถานที่แล้วคงเป็นธุรกิจขนาดกลาง-ขนาดย่อม (SME) ไ ม่ใช่กิจการใหญ่โต และพนักงานบริการที่คนมาทำอาชีพนี้พื้นเพมักมาจากครอบครัวที่มีฐานะทางเศรษฐกิจไ ม่ดีนัก ให้พวกเขาได้มี “อาชีพ-กิจการใหม่” ด้วย
ให้สมกับที่เคยประกาศว่า “จะไ ม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”
ที่มา แนวหน้า
